วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิธีการเลือกซื้อกล้องดิจิตอลให้เหมาะกับคุณ

ปัจจุบันกล้องถ่ายรูปนับว่าเป็นสินค้าที่มีประโยชน์กับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จึงมีการผลิตกันออกมาอย่างมากมาย ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ที่มีความสวยงาม พกพาสะดวก แต่ภายในก็ยังมีฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่าง ๆ มาดึงดูดใจ ปัจจุบันสินค้าทางด้านเทคโนโลยีได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอย่างรวดเร็วจนผมเองก็ยังตามไม่ทัน ไม่เว้นแม้แต่กล้องถ่ายรูปเองก็ตาม การแข่งขันของบริษัทต่าง ๆ ก็มีมากขึ้น ต่างพากันออกมาโชว์ความโดนเด่นและเอกลักษณ์ของตนเองให้เรา ๆ เลือกซื้อกันอย่างจุใจและลายตาจนปวดหัวกันเป็นแถว ๆ ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรกันดี แต่วันนี้ผมจะมาช่วยให้คุณ ๆ ได้เลือกซื้อกล้องถ่ายรูปกันให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมครับ
1.               เงินในประเป๋า
ก่อนอื่นเลยคุณควรกำหนดงบประมาณในการซื้อเสียก่อนว่าคุณมีงบไม่เกินเท่าไร เช่น เป็นนักเรียนนักศึกษา มีงบไม่เกิน 10,000 บาท , บุคคลทำงานทั่วไปมีงบไม่เกิน 30,000 บาท , ช่างภาพมีงบไม่เกิน 200,000 บาท เป็นต้น
2.               วัตถุประสงค์ในการใช้
หลังจากที่คุณได้กำหนดงบประมาณให้ตัวเองได้แล้ว ก็มาดูกันว่าคุณมีวัตถุประสงค์อะไรในการซื้อกล้องในครั้งนี้ เพราะผมเชื่อว่าการที่เราจะซื้อกล้องสักตัวจนทำให้เรากล้าที่จะซื้อมันเราก็ต้องมีเหตุผลแล้วว่าจะนำไปใช้ในด้านใด จริงไหมครับ ผมจะยกตัวอย่างเช่น
-                    นักเรียนนักศึกษา ต้องการซื้อกล้องไปเพื่อ ทำรายงาน ศึกษาดูงาน รวมไปถึงถ่ายรูปเพื่อน ถ่ายรูปตัวเองหรือถ่ายเล่น ๆ แนะนำให้ซื้อกล้อง Compact ครับ เพราะมีทั้งราคาถูกและราคาปานกลางที่ไม่แพงมาก เริ่มต้นราคาอยู่ที่ประมาณ 3,990 – 20,000 บาท แถมรูปลักษณ์และสีสันก็มีให้เลือกมากมาย ถูกใจวัยรุ่น พร้อมฟังก์ชั่นที่จำเป็นและใช้งานง่ายอีกด้วย
-                    บุคคลทั่วไป ที่ชอบเดินทาง ท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก ผมแนะนำให้ซื้อกล้อง SLR-Like ครับ เพราะเป็นกล้องที่มีความสามารถในการถ่ายภาพที่ค่อนข้างสูง รองรับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในการถ่ายภาพได้ เพื่อภาพที่สวยสมใจ ส่วนด้านราคาก็มีตั้งแต่ปานกลาง – สูง เริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 – 50,000 บาท ครับ
-                    ช่างภาพมืออาชีพ ถ้าคุณต้องการเป็นช่างภาพมืออาชีพ คุณก็ต้องเลือกใช้เลือกกล้อง DSLR เพราะมีความสามารถในการถ่ายภาพสูง สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมได้อย่างครบถ้วน ส่วนด้านราคาก็สูงไปตามความสามารถครับ
-                    ต้องการถ่ายภาพในน้ำ ใต้ทะเล คุณก็ต้องเลือกกล้องที่สามารถกันน้ำได้ 100 % ปัจจุบันมีไม่เลือกไม่กี่ยี่ห้อ สามารถกันน้ำได้ตั้งแต่ 3 – 10 เมตร
3.               ฟังก์ชั่นภายใน
คือความสามารถต่าง ๆ ภายในกล้อง โดยมาตรฐานควรเลือกให้มีฟังก์ชั่น ดังนี้
-                    หน่วย Pixel
ทุกวันนี้กล้องถ่ายภาพได้มี หน่วย Pixel เพิ่มขึ้นที่รวดเร็วมาก ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ 10 – 18  ล้านพิกเซล เป็นต้นไป เริ่มที่ 10 ล้านพิกเซล ที่ราคา 3,990 บาท และยิ่ง Pixel สูงขึ้นราคาก็เพิ่มขึ้นได้ ดังนี้ควรดูที่งบประมาณและวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นหลัก เพราะถ้าคุณซื้อกล้องไปเพื่อถ่ายรูปเล่น ๆ 5 ล้านพิกเซลก็เหลือเฟือ
-                    ระยะ Zoom
เป็นสิ่งที่สำคัญในการถ่ายภาพอย่างหนึ่ง โดยลักษณะของการ ZOOM ที่ควรพิจารณามี ดังนี้  
-                    มาโคร ( Macro ) เป็นรูปแบบของการถ่ายภาพระยะใกล้ อย่างน้อยควรซูมให้ได้ในระยะ 5 CM แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ซูมได้ 1 CM ครับ
-                    Optical Zoom ใช้ซูมภาพในระยะไกล ถ้ามี Optical Zoom สูงภาพที่ถ่ายออกมาจะไม่แตก ผมแนะนำให้เลือกซื้อกล้องที่มี Optical Zoom 10X ขึ้นไปครับ


-                    รูรับแสง
คือช่องรับแสงบริเวณหน้าเลนส์ สามารถปรับให้กว้างหรือแคบได้ โดยในกล้องดิจิตอลจะมีค่าของรูรับแสงไม่กี่ระดับ ได้เหมือนกับกล้อง DSLR ที่มีค่าอยู่หลายระดับ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความหลากหลายมากกว่า แต่สำหรับกล้อง Compact ทั่วไปผมแนะนำให้เลือกค่ารูปรับแสงเริ่มต้นที่ F2.8 ไม่เกิน F3.0 – F8.0 จะดีมากครับ

-                    White balance หรือการปรับแสงขาว
คือ รูปแบบของแสงในสภาพต่าง ๆ เช่น Auto, Daylight, Cloudy, Fluorescent เป็นต้น โดยในการเลือกนั้น ผมแนะนำให้เลือกกล้องที่มี Mode White balance อย่างน้อย 7 Mode เพื่อความหลากหลายในการถ่ายภาพครับ
ตัวอย่างแสง Mode White balance
-                    ความเร็วชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์  คือ ความเร็วในการเปิด-ปิดรูรับแสงตามช่วงเวลาที่กำหนด การที่ความเร็วชัตเตอร์ช้ามาก ๆ จะทำให้การถ่ายกลางคืนได้รับแสงที่สวยงาม และความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วมาก ๆ ก็จะทำให้ได้ภาพเป็นชอต ๆ ได้ภาพเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ดังนี้การเลือกซื้อกล้อง ผมแนะนำให้ซื้อกล้องที่มีค่าความเร็วชัตเตอร์ ขั้นต่ำ อยู่ที่ 15 sec – 1/2000 sec ครับ แต่ถ้าได้ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่มากเท่าไรก็ยิ่งดีครับ
                                                            ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ 15 sec     ความเร็วชัตเตอร์สูง 1/2000 sec

-                    ความสามารถของแบตเตอรี่
การเลือกรูปแบบแบตเตอรี่ที่ใช้งานในกล้องถ่ายภาพดิจิตอลนั้น มีอยู่ 3 แบบ คือ แบบลิเทียมไอออน, แบบ AA และแบบ AAA โดยแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป อันนี้แล้วแต่ความชอบนะครับ ผมจะอธิบายง่าย ๆ คือ แบบลิเทียมไอออน (Lithium-Ion) จะเป็นแบตเตอรี่แบน ๆ หรือเป็นแท่นยาว ๆ มีน้ำหนักเบา ปัจจุบันเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ส่วนแบตเตอรี่แบบ AA และ AAA เป็นแบตเตอรี่ในรูปแบบถ่านก้อน ซึ่งมีทั้งแบบ ชาร์ตไฟและแบบใช้แล้วทิ้ง มีราคาถูกกว่าแบบลิเทียมไอออน (Lithium-Ion) หาซื้อได้ง่ายในร้านสะดวกซื้อ สามารถซื้อตุ่นไว้เป็นแบตเตอรี่ฉุกเฉินได้ในยามที่แบตเตอรี่หมด ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที ข้อเสียก็คือ จะทำให้กล้องมีน้ำหนักมากนั้นเองครับ
                              แบบ ลิเทียมไอออน (Lithium-Ion)                 แบบ AA / AAA

-                    วิดีโอ (VDO)
VDO เป็นรูปแบบหนึ่งที่มักจะมีในกล้องดิจิตอลเสมอ แม้จะใช้ได้ไม่ดีเท่ากล้องวีดิโอก็ตาม ผมขอแนะนำให้เลือกกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดของ VDO ตั้งแต่ 640x480 พิกเซล เป็นอย่างต่ำและมันควรจะมีเสียงที่ชัดเจนได้นะครับ
-                    จอ LCD
คือ หน้าจอแสดงผลในการถ่ายภาพ ปัจจุบัน จอ LCD ได้มีการผลิตออกมาให้เน้นความใหญ่ของจอเป็นหลัก โดยจะมีการเพิ่มลูกเล่นอื่น ๆ แทน เช่น หน้าจอ ทัชสกรีน ( Touch screen ) ที่มีจอแสดงผลใหญ่เต็มพื้นที่ มองเห็นชัดเจน แต่ข้อเสียความหน้าจอสกปรกและเป็นรอยง่าย , หน้าจอแสดงผลด้านหน้า เป็นลูกเล่นสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปตัวเอง ซึ่งจะทำให้คุณไม่หลุดกรอบอีกต่อไป ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ ผมไม่ขอแนะนำอย่างใดอย่างหนึ่งครับ แล้วแต่คนชอบครับ
                              แบบ ทัชสกรีน ( Touch screen      แบบ จอแสดงผลด้านหน้า

4.               ขนาด น้ำหนัก  
ควรเลือกซื้อกล้องที่เหมาะสมกับมือของเราจับ และกะทัดรัดพอดีมือ ไม่ควรเลือกซื้อกล้องที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่ามือมาก ๆ  และมีน้ำหนักที่ไม่หนักมากนัก เพราะมันอาจมีผลกระทบต่อความสะดวกในการใช้งานได้

5.               รูปลักษณ์ภายนอก
คือ ดีไซน์ (Design) และวัสดุในการผลิต นั้นเอง กล้องที่เราจะเลือกซื้อนั้นนอกจากฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนแล้ว ดีไซน์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถตอบสนองความเป็นตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าที่เป็นสีสัน รูปแบบ ขนาด หรือแม้แต่ปุ่มต่าง ๆ ก็ตาม วัสดุในการผลิตก็ต้องมีความทนทาน แข็งแรง จะได้ใช้งานได้นาน ๆ นะครับ

6.               ของแถมส่วนลด
         ข้อนี้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบของฟรีของแถมและมีตัวเลือกในการซื้อกล้องมากกว่า 3 อัน เรียกง่าย ๆ ว่า อันนี้ก็ดี อันนั้นก็โดน อันนู้นก็เจ๋ง เลือกไม่ถูกเลย ข้อนี้ควรทำให้คุณเลือกได้ครับ เช่น รุ่นนี้แถม mem 1 GB กับซองใส่กล้อง อีกรุ่นนึงแถม mem 512 MB กับส่วนลด 10 % อะไรแบบนี้ คุณก็เลือกเอานะครับว่าจะเลือกยี่ห้อไหน

ประเภทของกล้องดิจิตอลที่ควรรู้

กล้อง Ultra-Compact เป็นกล้องที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ใช้เร็ว พกพาสะดวก Design เก๋ เหมาะสำหรับ ผู้หญิงและวัยรุ่นที่ชอบ Design  และความน่ารักของกล้อง ปัจจุบันกล้องประเภทนี้ได้พัฒนาไม่มีฟังชั่น ลูกเล่น การใช้งานที่มากขึ้น เช่น สามารถถ่ายแบบ 3D , แบบ Panorama , มีจอแสดงผลด้านหน้า หรือแม้แต่การตกแต่งภาพที่มาพร้อมกับกล้อง ราคาก็ไม่แพงมากนัก เริ่มต้นอยู่ที่ 4000 – 18,000 บาท แล้วแต่ยี่ห้อและความพิเศษของมัน

กล้อง Compact หมายถึงกล้องดิจิตอลขนาดเล็ก มีความหนามากกว่ากล้องแบบ Ultra-Compact  เน้นการใช้งานแบบ point to shot หรือเล็งแล้วถ่ายได้เลย จึงเน้นที่ขนาดกะทัดรัด ฟังก์ชันการใช้งานแบบอัตโนมัติเป็นหลัก อาจมีแซมๆ ฟังก์ชันแบบแมนนวลไว้บ้าง กล้องดิจิตอลชนิดนี้มีเยอะที่สุดในตลาดตอนนี้

กล้อง SLR-Like กล้องประเภทนี้มีลักษณะค่อนกันกล้องแบบ DSLR  สามารถซูมได้มากกว่ากล้องแบบ Compact และมีขนาดใหญ่กว่ามาก สามารถติดอุปกรณ์เสริมได้ แต่ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้เหมาะสำหรับ สรุปคือ มี Design แบบ SLR แต่งฟังก์ชั่นภายในแบบ Compact เลยมีชื่อว่า SLR-Like ครับ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจการถ่ายภาพ ที่ต้องการถ่ายภาพแบบก้าวหน้าแบบกึ่งมืออาชีพ แต่ยังไม่อยากลงทุนสูง


กล้อง DSLR คือกล้องระดับมืออาชีพ ขนาดค่อนข้างใหญ่และหนัก ราคาสูงมีฟังก์ชั่นในการบันทึกภาพครบครัน มีอุปกรณ์เสริมมากกว่าสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ เหมาะสำหรับมืออาชีพ หรือผู้สนใจการถ่ายภาพที่ มีทุนสูง

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มารู้จัก Memory card ประเภทต่าง ๆ กันเถอะ

Compact Flash Card (CF Card) เป็นหน่วยความจำแบบที่นิยมกันมากที่สุด ทำให้ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย เพียงแต่ขนาดจะใหญ่กว่าหน่วยความจำแบบอื่นอยู่เล็กน้อย มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ Type I และ Type II ซึ่งแบบ Type II จะมีความหนามากกว่า ส่วนใหญ่ที่ใช้กันจะเป็นแบบ Type I ส่วน Type II จะเป็น Microdrive ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาดจิ๋ว กล้องส่วนใหญ่จะใช้ Type I ได้ แต่บางรุ่นจะไม่สนับสนุน Type II แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นปัญหามากนัก เพราะ CF Type I ก็สามารถทำความจุได้มากไม่แพ้ Microdrive ส่วนใหญ่จะใช้ในกล้อง Digital SLR



Secure Digital Card (SD Card) เป็นรูปแบบ Card ที่คิดค้นขึ้นโดย 3 บริษัท คือ Toshiba / Panasonic และ Sandisk  เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ในกล้องดิจิตอลหลายยี่ห้อในปัจจุบัน และกล้องรุ่นที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ PDA หลายๆ รุ่นด้วย เพราะขนาดของการ์ดเล็ก สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็ว มีตัวเลือกให้เลือกหลายรุ่น หลายขนาด เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่าย และมีแนวโน้มที่ราคาจะถูกลงเรื่อยๆ



MultiMedia Card (MMC) หรือ MultiMediaCard MMC Card นั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกแทนที่ด้วยการ์ดหน่วยความจำแบบ SD Card ในไม่ช้า แต่ที่ยังคงมีการใช้งาน MMC Card กันอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เนื่องจาก MMC Card นั้นสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับ SD Card ได้ด้วย โดยอุปกรณ์ที่นำ MMC Card ไปใช้งานนั้นก็มักจะเป็นอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ, เครื่อง PDA, เครื่องเล่นเพลง MP3 หรือกล้องดิจิตอล จากที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ อุปกรณ์ใดที่มีสล็อตของ SD Card ก็มักจะสามารถนำ MMC Card มาใส่ได้โดยปริยาย เนื่องจากความกว้างและยาวของ MMC Card นั้นเท่ากันกับ SD Card รวมถึงมีขาขั้วต่อ (Pins) รูปแบบเดียวกัน เพียงแต่ MMC Card จะมีความหนาที่น้อยกว่า SD Card อยู่เล็กน้อย

Memory Stick เป็นหน่วยความจำที่พัฒนาขึ้นโดยโซนี่ เพื่อใช้กับอุปกรณ์ของโซนี่หลายๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องดิจิตอล, เครื่องเล่นเพลง, เครื่อง PDO, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องเล่นเกมส์ PlayStation รวมถึงเครื่องโน็ตบุ๊คราคาแพงจากค่าย Sony ที่ใช้ชื่อว่า VAIO ที่มีสล็อตสำหรับใส่ Memory Stick อยู่ในตัว มีขนาดเล็กพกพาสะดวก แต่มีข้อจำกัดที่ความจุให้เลือกไม่มากนัก และราคายังค่อนข้างสูงอยู่มาก เมื่อเทียบกับการ์ดประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่จะพบในกล้องของโซนี่ เท่านั้น

XD Picture Card (XD Card) เป็นหน่วยความจำที่บางมาก มีใช้ในกล้องดิจิตอลรุ่นเล็กของฟูจิ และโอลิมปัส ถือว่าเป็นสื่อบันทึกข้อมูลน้องใหม่ มีความน่าสนใจ แต่ยังมีใช้ไม่มากนัก จึงมีราคาสูงกว่า SD Card ทั่วไป

Smart Media เป็นต้นแบบของ XD Card เป็นการ์ดแบบบางเช่นกัน แต่มีความจุน้อย ปัจจุบันแทบจะไม่มีกล้องดิจิตอลที่ใช้หน่วยความจำแบบนี้แล้ว

จะซื้อ Memory card ความจุเท่าไรดี

Memory card คืออะไร Memory card คือ แผ่นเก็บบันทึกภาพที่มีหน่วยความจำเป็น MB เมกะไบท์ โดยทั่วไปความสามารถในการเก็บบันทึกภาพจะขึ้นกับความละเอียดของภาพที่ตั้งค่าเอาไว้ในกล้องดิจิตอล เช่น Memory card ความจุ 16 MB สามารถเก็บบันทึกภาพขนาด 5 MP ได้ 6 – 11 รูป เป็นต้น
การเลือกซื้อ Memory card
โดยปกติแล้วการเลือกซื้อ Memory card นั้นต้องเลือกให้ตรงกับยี่ห้อของกล้องดิจิตอลที่เราใช้อยู่ เพราะกล้องดิจิตอลแต่ละยี่ห้อสร้างและDesign ช่องใส่  card มาไม่เหมือนกัน การเลือกความจุของ card ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าเราใช้ถ่ายภาพมากแค่ไหน ในอดีตยุคเริ่มแรก  Memory card  มีการผลิตหน่วยความจำออกมาหลายขนาดตั้งแต่ 16 MB – 512 MB แต่ปัจจุบันมีการผลิต Memory card ที่มีหน่วยความจำมาก ๆ ออกมาขาย ตั้งแต่ 1 GB – 32 GB ทำให้ผู้ใช้อย่างเรามีทำสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเสียอารมณ์ระหว่างการถ่ายภาพอีกต่อไป  ซึ่ง Memory card ที่มีขนาด 256 MB ขึ้นไปจะสามารถเก็บบันทึกภาพ ขนาด 5 MP ได้มากกว่า 100 ภาพ ราคาประมาณ 190 บาท แต่ถ้าให้ผมแนะนำผมขอแนะนำให้ซื้อ 1 GB ครับ เพราะมันสามารถบันทึกภาพให้เกือบ 1000 ภาพ และราคาก็แพงกว่ากันแค่ประมาณ 100 กว่าบาทต้น ๆ เองครับ

ความละเอียด
16 MB
32 MB
64 MB
128 MB
256 MB
512 MB
1 GB
5 ล้านพิกเซล
6-11 รูป
12-23 รูป
24-48 รูป
51-96 รูป
92-174 รูป
185-354 รูป
384-723 รูป
4 ล้านพิกเซล
8-15 รูป
15-29 รูป
35-60 รูป
76-120 รูป
110-230 รูป
210-430 รูป
450-934 รูป
3 ล้านพิกเซล
10-18 รูป
20-37 รูป
41-74 รูป
82-149 รูป
148-264 รูป
302-537 รูป
671-1,097 รูป
2 ล้านพิกเซล
16-30 รูป
33-61 รูป
66-123 รูป
133-246 รูป
238-446 รูป
484-907 รูป
988-1,852 รูป