กล้องรุ่นแรก

หลังจากที่ไว้ศึกษาประวัติของการผลิตกล้องกันไปแล้ว ลองมาดูกันบ้างซิว่า กล้องถ่ายภาพในรุ่นแรก ๆ ของบริษัทผู้ผลิตกล้องชั้นนำระดับโลกมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างครับ

1.   กล้องตัวแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว Coronet Midget
กล้องตัวแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือกล้อง Coronet Midget สีเขียวปะดำ ของฝรั่งเศส ราคาเพียง ๒ ฟรังก์สวิส ในหลวงทรงมีกล้องถ่ายภาพเล็กๆ คู่พระหัตถ์ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 8 พระชันษา(ราวปี พ.ศ.2479) โดยสมเด็จพระบรมราชชนนีได้พระราชทานกล้องถ่ายรูป แก่พระองค์ ด้วยกล้องนี้ใช้ฟิล์มราคา ๒๕ เซนต์ซึ่งมีราคาถูก ในระยะแรกแม้จะทรงไม่ประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพนัก แต่ก็ไม่ทรงย่อท้อ ทรงศึกษาและฝึกด้วยพระองค์เองจนเป็นนักถ่ายภาพที่มีพระปรีชาสามารถยิ่ง ทั้งกล้องถ่ายภาพนิ่ง และกล้องถ่ายภาพยนตร์ ซึ่งภาพที่พระองค์ทรงบันทึกไว้นั้น นับว่ามีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ไปในสถานที่ต่างๆ จะทรงนำภาพถ่ายฝีพระหัตถ์มาใช้ประกอบการทรงงานของพระองค์อยู่เสมอ
Coronet Midget

2. Conon HANSA 1935
ในปี ค.ศ. 1935 กล้องถ่ายภาพขนาด 35 mm ตัวแรกที่ออกทำตลาดในญี่ปุ่นก็คือ “Hansa Canon”  ซึ่งมันคือกล้องถ่ายภาพตัวแรกภายใต้ชื่อ Canon
Hansa Canon

3. Contax รุ่น S ปี 1949
บริษัท Zeiss lkon ของเยอรมนี เผยโฉมกล้อง Contax S กล้อง SLR รุ่นแรกของโลกที่ใช้ปรีซึมห้าเหลี่ยม (Pentaprism) ที่ให้การสะท้อนภาพได้อย่างแม่นยำและใกล้เคียงกับที่ผู้ถ่ายเห็นในช่องรับภาพมากที่สุด จนกลายเป็นต้นแบบของกล้อง SLR ในปัจจุบัน
Contax S
4. Hasselblad รุ่น 1600 F, Nr. 0001 ปี 1948
กล้องตัวแรกของ Hasselblad บริษัทผู้ผลิตกล้องสัญชาติสวีเดน นำเสนอกล้อง SLR แบบมีเดียมฟอร์แมตรุ่น 1600F ทรงลูกบาศก์ใช้ฟิล์ม 3 นิ้ว หรือ 120 เป็น กล้องสะท้อนภาพแบบเลนซ์เดี่ยว จุดเด่นของกล้องนี้ คือ เปลี่ยนเลนซ์ได้ มีแมกกาซีน(MAGAZINE)ใส่ฟิล์มให้เปลี่ยนได้หลายขนาด (ไม่มีภาพกล้อง) ที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งนิยมใช้กันมากในสตูดิโอถ่ายภาพ
Hasselblad
5. Olympus รุ่น Semi-Olympus I ปี 1936
ในปี ค.ศ 1936 บริษัทได้เปิดตัวกล้องของตนเองรุ่นแรกอย่างเป็นทางการคือ Semi-Olympus I  ตามมาด้วยกล้องรุ่น Semi Olympus II แต่แววแห่งการเป็นผู้นำเทรนด์ทางด้านการถ่ายภาพยุคใหม่ของโอลิมปัสนั้นเริ่ม ขึ้นในปี ค.ศ. 1959 ด้วยการประกาศเปิดตัว Olympus PEN ซึ่งใช้พื้นที่บนฟิล์มด้วยขนาด 18 x 24 mm (Half Frame) ทำให้สามารถบันทึกภาพได้ถึง 72 ภาพด้วยม้วนฟิล์ม 36 ภาพมาตรฐานที่ใช้กันอยู่โดยปกติ ซึ่งด้วยเทคนิคการออกแบบลักษณะนี้ทำให้มันเป็นกล้องที่มีขนาดเล็กและใช้งาน สะดวกที่สุดในขณะนั้น

Semi-Olympus
6. Samsung DigiMax 800K ปี 1966
ใน ปี ค.ศ. 1997 Samsung ได้ผลิตกล้องดิจิตอลเป็นผลสำเร็จออกมาเป็นกล้องดิจิตอลตัวแรกในชื่อรุ่น Samsung Digimax 800K ซึ่งสามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียดระดับ 1024x768px
Samsung Digimax 800K
7. Fujica Six ICS ปี 1948
FujiFilm เริ่มขึ้นจากการผลิตกล้องฟิล์ม Fujica Six ขึ้นในปี ค.ศ. 1948 และตามมาด้วยกล้องฟิล์มชนิดต่างๆ มากกว่าสองร้อยรุ่น ส่วนกล้องดิจิตอลนั้นเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1988 กับกล้องรุ่น DS-1P (ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันคือกล้องถ่ายภาพระบบดิจิตอลตัวแรกของ โลก) มีความละเอียด CCD อยู่ที่ 400KP (4 แสนพิกเซล) และใช้หน่วยความจำแบบ SRAM ของ Toshiba สำหรับเก็บข้อมูลภาพ จนกระทั่งมาถึงยุคปัจจุบัน สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับกล้องดิจิตอลของ Fujifilm เป็นอย่างมากก็คือ เซนเซอร์รับภาพแบบ Super CCD ที่ให้คุณภาพของภาพในระดับดีมาก รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพแบบ 3 มิติ (3D) โดยการที่กล้องมีเลนส์สองตัวเพื่อให้ใกล้เคียงระยะห่างของสายตามนุษย์นั่นเอง

                                           Fujica Six                                                              Fujica  DS-1P

8. Nikon รุ่น Nikon I ปี 1948
ในปี 1948 Nikon เริ่มวางขายกล้องของตัวเองเป็นรุ่นแรกคือ Nikon I มันถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมระหว่างกล้อง Leica และ Contax เลนส์เมาท์ของ ในเวลาต่อมา Nikon I เป็นกล้องที่ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมมาก มากกว่ากล้องในญี่ปุ่นที่ออก มาช่วงนั้นรวมทั้งของแคนอนด้วย
Nikon I

9. Kodak รุ่น Kodak Camera (หรือ Box Camera) ปี 1888
Kodak เริ่มต้นพัฒนากล้องตัวแรกขึ้นจนเป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ. 1888 โดยใช้ชื่อว่า Kodak Camera (หรือ Box Camera) ซึ่งใช้สื่อบันทึกภาพชนิดม้วนกระดาษที่สามารถบันทึกภาพได้ 100 ภาพบรรจุอยู่ภายใน มันมีค่าตัว 25$ และเมื่อถ่ายภาพครบทั้งร้อยภาพแล้ว ก็จะต้องทำการส่งกล้องทั้งตัวกลับมาที่โรงงานเพื่อนำเอาภาพออกมาทำการล้าง อัด ซึ่งกล้องก็จะถูกส่งกลับไปยังเจ้าของพร้อมภาพที่ทำการอัดเรียบร้อยแล้วและ สื่อบันทึกภาพม้วนใหม่เอี่ยมบรรจุอยู่ภายในเช่นเดิมในปี ค.ศ. 1890 กล้อง Kodak ชนิดที่เรียกว่า Folding Camera ที่สามารถถ่ายภาพได้ 48 ภาพก็ออกสู่ตลาดตามมา มันมีขนาดที่เล็กลงเพื่อให้พกพาได้ง่ายมากขึ้น หลังจากนั้นไม่นานเมื่อบริษัทเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงการ เขาก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทเสียใหม่โดยใช้ชื่อว่า Eastman Kodak Co.

Box Camera                                Folding Camera
10. Pentax รุ่น Asahiflex ปี1952
กล้องตัวแรกของ Asahi เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ได้ปรากฏตัวขึ้นในชื่อรุ่น Asahiflex ซึ่งมันรั้งตำแหน่งกล้อง SLR ตัวแรกของญี่ปุ่นด้วย ส่วนชื่อ “Pentax” นั้นเกิดในปี ค.ศ. 2002 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Pentax Corporation ขึ้นเดิมทีเป็นชื่อเครื่องหมายการค้าของ East German VEB Zeiss Ikon ถึงแม้ว่า Pentax จะดูแผ่วลงไปบ้างในระยะหลังจากโลกยุคดิจิตอลก็ตาม แต่ในอดีตนั้นยี่ห้อนี้ก็ไม่เคยเป็นที่สองรองใครจากประวัติอันยาวนานในยุทธจักรการถ่ายภาพ
Asahiflex

11. Panasonic รุ่น Lumix DMC-F7 ปี 2001
กล้องดิจิตอลตัวแรกของ Panasonic นั้นเป็นกล้องชนิด Compact ที่มีชื่อรุ่นว่า Lumix DMC-F7 เปิดตัวเมื่อ 17 กันยายน 2001 ด้วยความละเอียดระดับ 1.9 MP ส่วน Lumix DMC-L1 คือกล้อง DSLR ตัวแรกที่ใช้เซนเซอร์ Four-Third ของค่าย เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2006 ซึ่งดูภายนอกแล้วมีความคล้ายคลึกกับกล้อง Leica เป็นอย่างมาก
Lumix DMC-F7
12. Sony Alpha DSLR-A100 ปี 2006
กล้องดิจิตอลตัวแรกของ Sony มีชื่อว่า Alpha และออกสู่ตลาดก็คือ Alpha 100 ในเดือนกรกฏาคม ค.ศ. 2006 ตามมาด้วยกล้องที่จริงจังมากขึ้นอย่าง Alpha 700 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 จากนั้น Sony ก็ได้ทยอยปล่อยกล้อง DSLR สำหรับกุล่มผู้ใช้มือสมัครเล่นออกมาเป็นระยะๆ แต่ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 Sony ก็สั่นสะท้านวงการด้วยการปล่อย Alpha 900 DSLR ระดับมืออาชีพที่มีเซนเซอร์รับภาพขนาด Full Frame พร้อมความละเอียดที่สูงมากถึง 24.6 MP ลงสู่ตลาดผู้ใช้ทั่วไป ทำเอาคนในวงการโจษขานกันข้ามปีเลยทีเดียว
Sony Alpha DSLR-A100

13. Konica Minolta ชื่อ Nifcarette  ปี 1929
กล้องถ่ายภาพตัวแรกของบริษัท Nichidoku Shashinki Shoten (ชื่อเดิม) ในปี ค.ศ. 1929 ใช้ระบบชัตเตอร์และเลนส์ที่นำเข้ามาจากเยอรมัน ซึ่งตามมาด้วยการผลิตกล้องอีกหลายรุ่นจากโรงงาน Mukogawa ต่อมาในปี ค.ศ. 1931 ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า Molta Goshi-gaisha และในปี ค.ศ. 1933 บริษัทก็ได้ทำการจดทะเบียนชื่อเป็น  Minolta กิจการกล้องและอุปกรณ์ยังคงดำเนินต่อเรื่อยมาจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1937 บริษัทได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Chiyoda Kogaku Seiko K.K. จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองผ่านพ้นไป ในปี ค.ศ. 1962 ก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้งมาเป็น Minolta Camera K.K. และประกาศสักดาด้วยการเปิดตัวกล้อง SLR รุ่น Minolta SR-7 ซึ่งมีระบบวัดแสงด้วยแคดเมียนซัลไฟด์มาให้ใช้งานด้วย ส่งผลให้มันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและดันให้ชื่อ Minolta ขึ้นไปอยู่ในบริษัทชั้นแนวหน้าสำหรับระบบวัดแสงเพื่อการถ่ายภาพ แต่ดูเหมือนว่า Minolta จะมาช้าเกินไป เรี่ยวแรงที่เคยมีนั้นก็ลดน้อยถอยลง จนกระทั่งต้องควบรวมกิจการเข้ากับ Konica เมื่อปี ค.ศ. 2003 ในที่สุด
Nifcarette


ที่มา : www.tsdmag.com